เรื่องเล่าของวันนี้ เมื่อปีที่แล้ว 20 เมษายน 2553
อาสาสมัคร 3 คน จากเมืองไทย เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2553 มีป้ากุล (กุลวรา ชูพงษ์ไพโรจน์) พี่รัตนาพร (รัตนาพร สงวนประสาทพร) และข้าพเจ้า (เปี่ยมสุข คนเล่าเรื่อง) ออกเดินทางจาก กทม. ไปสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความรีบเร่ง และแตกตื่น ด้วยเหตุที่คนขายตั๋วแจ้งว่า สนามบินประกาศให้ไปถึงก่อนเวลาเดินทางล่วงหน้า 4 ชม. (มากกว่าปกติ เดิมแค่ 2 ชม.) เนื่องจาก กทม.ในเวลานั้นผู้คนวิตกกังวลและเครียดกับสถานการณ์บ้านเมืองที่มีม๊อบเสื้อแดงปิดถนน เดินไปทั่ว แล้วข้าพเจ้าทั้งสาม ก็ยังไม่หายเครียดว่า ต้องรีบไปให้ถึงสนามบิน เดี๋ยวอาจเจอเสื้อแดงมาปิดถนน ถึงสนามบินแล้วก็ยังไม่หายเครียด เพราะยังมีความเป็นไปได้ว่า เสื้อแดงจะมายึดสนามบิน ไม่ให้ผู้คนเดินทางไป-มา เข้า-ออกสนามบิน
เมื่อถึงสนามบินแล้วก็รีบเช็คอิน แล้วเว้าวอนป้ากุล ซึ่งขณะนั้น ยังไม่ยอมใช้บริการรถเข็น ในที่สุดป้าก็ทำใจได้ จึงยอมใช้สิทธิบริการชั้น VIP อันนี้ ข้าพเจ้าก็เพิ่งประจักษ์แจ้งว่า มันเป็นบริการชั้นเลิศประเสริฐศรีมาก ดีกว่าประชาชนชั้น Business class ของทุกสายการบินค่ะ และคนที่เดินทางร่วมด้วยก็ได้รับสิทธิเป็น First piority ในทุกๆ เคาเตอร์ ไม่มีคิว เข้าไปก่อนผู้โดยสาร สว.และเด็ก งานนี้ต้องขอบอกว่า ป้ากุลเป็นคนพาเราไปอเมริกาแบบ VIP โดยแท้ (เมื่อ 10 ปีก่อนที่ไปเมกาครั้งแรก ต้องเดินไปทั่ว Terminal หาเคาเตอร์ United ที่มันให้ไปต่อ Domestic flight เดินเป็นกระเหรี่ยงหลงทางเกือบตกเรือบินที่สนามบิน LA) งานนี้เป็นบุญที่ป้ากุลพาไปอย่างกะ มหาราณีน้อย ไม่ต้องคิดเป็นภาษาอังกฤษเลยว่า ข้าเจ้าจะต้องไปเอากระเป๋าตรงไหน เข้าช่องไหน รออะไรที่ไหน ป้ายไหน หรืออะไรอยู่ที่ไหนกันล่ะหว่า.....แค่เดินตามคนเข็นรถป้ากุลไปอย่างเดียวแหละ เลยมีสายตาสอดส่ายไปเห็นความอดทนรอคิวของประชาชนผู้โดยสารทุกชนชั้น ของทุกสายการบินว่า อิจฉาเราสามคนจนตาร้อน เมินหน้าหนี....ทำใจไม่ล่ายกันเป็นแถว + ทุกแถว
พวกเราเริ่มหายใจเป็นปกติ พร้อมมีสีหน้าสีตาดีขึ้น คลายเครียดไปหลายริ้วรอย เมื่อเรือบินพาไปถึงสนามบินที่ไต้หวัน นึกขึ้นได้ว่าน่าจะเอากล้องมากดเล่น เพราะออกจากสนามบินสุวรรณภูมิได้ โดยไม่เจอเสื้อแดงสักคนเดียว รอไปเจอเสื้อเหลืองที่วัดไทยที่อเมริกาโน้นเลย
และพอไปถึงก็ไม่ต้องสนใจว่าจะออกจากสนามบินไปวัดไทยได้ยังไง เพราะบอกแต่ต้นทางแล้วว่า งานนี้ได้เป็น VIP จริงๆ เลยน้า... นับเป็น "มหาวาสนา" ของข้าน้อย เพราะป้ากุลบอกว่าจะมีพระเจ้าที่นิมนต์(ขอขมาพระสงฆ์ ที่บังอาจใช้ศัพท์สูง บางขณะจิต) เราไปแหละ เขาไปรับถึงสนามบิน หลังจากนั่งโยคะบริหารแข้งขาหน้าหลัง พร้อมรับภักษาหารและมังสาหารอยู่บนเรือบินยี่ห้อ EVA สักประมาณ 13 ชั่วโมง ก็ถึงสนามบิน LAX ลงจากเรือบินมาได้อย่าง VIP คือรถเข็นพร้อมคนขับรถมารับป้ากุลถึงประตูเรือบิน แล้วทำเดินเชิดหน้า ตามรถเข็นป้ากุลไปรายงานตัวกับ จนท.ตม ที่เคาเตอร์ VIP ซึ่งต้องเปลี่ยนหูใช้ English driver เปลี่ยนตาไปใช้ Fonts ตัวหนังสือภาษาต่างประเทศ แต่ก็เป็นการวอร์มเครื่องเพียง 2-3 คำ ประมาณว่า Wat Thai (Thai Temple) at North Hollywood, Volunteer, 3 months ก็พอ....อะไรประมาณนี้
คนขับรถเข็นพูดสำเนียงลาติโนก็ถามว่า มีคนมารับยู หรือว่าจะไปแท๊กซี่ (ชีจะได้เข็นไปออกประตูที่ต้องการ) ต้อง VIP pickup point แหละ มีพระมารับ ช่วยมองหา Buddhist monk in Yellow Cloth ให้ด้วย เข็นเราไปจอดตรงนั้นแหละ meeting point ที่ตอบแบบนี้ เพราะป้ากุลบอกให้มองหาจีวรพระแหละไม่รู้ท่านองค์ไหนจะมาให้เรานมัสการถึงสนามบิน ก็เลยเป็นล่ามแปลไปแบบฉุกเฉินด้วยประการละฉะนี้ ป้าบอกเราแล้วว่า พอไปถึงแล้วไม่ต้องงุนงงสงสัยว่า พระขับรถมารับนะ เพราะพระที่อเมริกาต้องขับรถเอง... เดี๋ยวก็รู้เองแหละ...
Thursday, April 21, 2011
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment